top of page

เรื่องดีๆ ที่เราอยากให้คุณรู้

  • รูปภาพนักเขียน: TORI
    TORI
  • 23 เม.ย. 2562
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 14 ม.ค. 2563


zipper work, การทำงานของซิป

จากเรื่องเล่าครั้งที่แล้วที่โทริได้เล่าเกี่ยวกับ ส่วนประกอบของซิป วันนี้โทริอยากจะมานำเสนอสิ่งที่ลึกลงไปอีกค่่ะ นั่นก็คือการทำงานของซิป ในซิปจะมีส่วนที่สำคัญหลักที่เป็นตัวการในการที่งานของระบบซิปอยู่สองอย่าง นั่นก็คือฟันซิป และหัวซิปนั่นเองค่ะ

zipper, ซิป,หัวซิป

ฟันซิป ไม่ว่าจะเป็นซิปประเภทใดก็ตาม หลักการการทำงานของฟันซิปคือการล็อคประกบ หรือการเกี่ยวยึดกันเองของฟัน ถ้าเป็นฟันซิปโลหะก็จะผลิตจากแผ่นลวดโลหะนำมาตัดเป็นรูปฟันและ ประกบกับตัวผ้าซิป หากเป็นซิปไนลอนจะเป็นการใช้ความร้อนและการเย็บระหว่างเส้นเอ็นกับผ้า ส่วนซิปพลาสติกจะใช้การหลอมบล็อคลงในเนื้อผ้าซิปเลย แต่ไม่ว่าเป็นฟันประเภทใดหลักคิดคือการทำให้เกิดรูปทรงของการเกี่ยวกันขึ้นมาอย่างแน่นเหนียว

zipper teeth, ฟันซิป
ภาพ diagram การเกี่ยวกันของฟันซิป

หัวซิป ส่วนสำคัญที่จะทำให้ฟันซิปประกบกันได้ก็คือหัวซิป หลักการทำงานของหัวซิปสามารถอธิบายได้ง่ายๆ ก็คือ หัวซิปเป็นรางที่นำฟันซิปทั้งสองข้างมารวมประกบกัน โดยหากอธิบายให้ละเอียดหัวซิปจะประกอบไปด้วยส่วนต่างๆดังนี้ 1,ป้ายซิป(puller) : เป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการดึงจับลากหัวซิปให้ขยับ ส่วนนี้สามารถออกแบบได้อย่างอิสระ แต่ต้องทำให้สามารถจับดึงได้ง่าย 2.สันยอด(crown) : เป็นห่วงที่ใช้ยึดป้ายเข้ากับหัวซิป 3.แกน(diamond) : เป็นส่วนโครงสร้างความแข็งแรงหลักภายในซิป มีลักษณะเป็นเหลี่ยมช่วยส่งให้ฟันซิปประกบกัน 4.ไหล่(shoulder) : ส่วนหน้าสุดของรางที่ภายออกมา 5.ช่องใส่ผ้า(tape gap) : รางที่ใช้สอดผ้าและฟันซิปเข้าไป 6.ราง(rail) : รางมีสองส่วนคือรางบนและรางล่าง ซิปที่เกิดปัญหาไหล ส่วนมากเกิดมาจากระยะของรางถูกดึงจนรางทั้งคู่บนล่างห่างออกจากกัน จากการใช้งานดึงหัวซิปบ่อยๆและรุนแรง 7.ปาก(mouth) : ส่วนแรกที่ตัวซิปจะลอดผ่านเข้าไป

ลักษณะของรูปแบบป้ายซิป เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป สองลักษณะ คือ - หัวซิปแบบป้ายสอด : เป็นโครงสร้างแบบพื้นฐานป้ายซิปคล้องโดยตรงกับสันยอดของซิปเลย - หัวซิปแบบป้ายคล้อง : เป็นโครงสร้างที่ถูกพัฒนาภายหลัง โดยจะมี'ห่วงคล้อง'เพิ่มขึ้นมา เพื่อเป็นตัวประสานกับป้ายซิปอีกที ข้อดีของรูปแบบนี้คือ ป้ายซิปสามารถถูกออกแบบได้อย่างอิสระมากกว่า สามารถกำหนดขนาดและ รูปแบบได้หลากหลายกว่า จะพบได้มากในป้ายแฟชั่นต่างๆ


แบบป้ายซิป

เกร็ดเสริม : ทุกท่านเคยสังเกตไหมคะว่า ด้านหลังหัวซิป ส่วนมากเราจะพบตัวเลขและ/หรือตัวอักษร ปรากฎอยู่บนนั้น ตัวเลขนั้นคืออะไร ทราบไหมคะ?

ตัวเลขกับตัวอักษรเหล่านั้น มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยเลยนะคะ โทริขอเฉลยค่ะ ตัวเลขด้านบน : บอกขนาดเบอร์ซิป เช่น จากในรูปด้านล่างคือหัวซิปที่ใช้กับซิปเบอร์5 ตัวอักษรด้านล่าง : ใช้จำแนกแถวในแบบหล่อของหัวซิป (จะกล่าวถัดไป)

การหล่อหัวซิป ในการหล่อหัวซิปจะใช้แม่พิมพ์ที่สามารถพิมพ์หล่อหัวซิปออกมาทีละหลายชุด ดังนั้นหากเกิดปัญหาขึ้นในหัวซิปหนึ่งในแบบพิมพ์ที่หล่อขึ้นมา เราจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าหัวซิปจุดไหนในแม่พิมพ์ที่เป็นปัญหา ดังนั้นการพิมพ์อักษรกำกับเอาไว้จึงช่วยในการแยกแยะ และลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการผลิต (จากในรูปด้านล่าง เราจะนำไปกลึงให้หัวซิปในแบบหลุดออกมา ทำความสะอาดและนำไปใช้ ส่วนแกนแม่พิมพ์ที่เห็นเป็นแท่งจะนำกลับไปหลอมเป็นวัสดุผลิตใหม่ ไม่สิ้นเปลือง)

แม่พิมพ์ซิป
ชุดหัวซิป ที่เพิ่งออกจากแม่พิมพ์ (ยังไม่ผ่านการกลึงให้สวยงาม)

รายละเอียดต่างๆของซิปนั้น ยังมีรายละเอียดมากมายให้ทุกท่านได้ศึกษา ไม่ว่าจะเป็นกลไกต่างๆ หรือวิธีการ หัวข้อต่างๆเกี่ยวกับซิปและอุปกรณ์การเมนท์ โทริยินดีและพร้อมให้ความรู้และเรื่องเล่าดีๆแก่ท่านเสมอ โทริขอปิดท้ายด้วยคลิปวิดีโอแสดงภาพการรูดซิปและการทำงานของฟันซิปให้ท่านได้ชมค่ะ

หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook #การทำงานของซิป #ซิป #ข้อมูลซิป #โทร#โทริไทยแลนด์ #torithailand #ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซิป

อัปเดตเมื่อ 14 ม.ค. 2563


ซิปที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ถึงจะชิ้นเล็กๆ แต่ส่วนประกอบของมันมีหลายส่วนมากมาย ต่อจากเรื่อง รูปแบบต่างๆของซิป แล้ววันนี้โทริจะมาเล่าให้คุณฟังว่า ในซิปนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง มาดูกันเลย

ส่วนประกอบตามรูปภาพด้านบน 1. ตัวหยุดซิปบน(top stop) -เป็นโลหะที่นำมางับลงไปในเนื้อผ้าเพื่อใช้ในการหยุดการไหลของหัวซิป หัวซิปจะได้ไม่หลุดจากรางเมื่อรูดสุดปลาย วัสดุที่ใช้จะต่างกันไปในแต่ละรูปแบบของซิปที่ใช้ 2. หัวซิป(slider) -เป็นอุปกรณ์หลักอันดับสองของซิป เพราะเป็นส่วนที่ทำหน้าที่รูดให้ซิปติดกัน หรือแยกกันออก ตัววัสดุที่ใช้ทำหัวซิปมีหลายแบบ เช่น ทองเหลือง พลาสติก อลูมิเนียม สังกะสี เป็นต้น และยังมีด้วยกันหลายระบบ โดยจะกล่าวในหัวข้อถัดไป 3. ป้ายซิป(puller) -เป็นส่วนที่ติดกับหัวซิป โดยมีเพื่อให้เราสามารถจับเพื่อดึงให้หัวซิปขยับตามทิศทางที่ต้องการ โดยส่วนมากในแบรนด์ต่างๆ จะมีการดีไซน์ ออกแบบ ป้ายซิปให้มีเอกลักษณ์ต่างกันไปเพื่อสร้างจุดเด่น 4. ฟันซิป(teeth) -เป็นส่วนประกอบหลักของซิป ฟันซิปเป็นไอเดียหลักในการรูดเปิดเปิด ชื่อฟันซิปมาจากลักษณะที่มีส่วนเป็นเขียวกับหลุมรับกันสองด้าน ฟันซิปก็จะมีวัสดุแตกต่างกันไปในแต่ละรูปแบบซิปเช่นเดียวกัน แต่แรกเริ่มสุดจะทำมาจากโลหะ 5. ผ้าซิป(tape) -ผ้าซิปทำหน้าที่เป็นตัวประสานฟันซิปกับวัสดุอื่น ผ้าซิปเกิดจากการทอด้ายเส้นเล็กๆจนเป็นผืนขึ้นมา โดยผ้าซิปเราสามารถนำไปย้อมสีได้ตามต้องการ 6. ตัวหยุดซิปล่าง(bottom stop) -เป็นโลหะทำหน้าที่คล้ายกับตัวหยุดซิปบน แต่จะเน้นความเรียบและความสวยงามมากกว่า เนื่องจากเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีขนาดใหญ่กว่าเพราะต้องทนแรงรูดที่ปลาย 7. ฟิลม์เสริม(reinforce film) -เป็นส่วนเพิ่มเติมในซิปแบบเปิดท้าย ติดตั้งโดยเครื่องจักรที่ใช้ความร้อนทำปฎิกิริยากับฟิลม์และผ้าซิป หลอมประทับลงไปเพื่อให้ผ้าซิปส่วนท้ายมีความแข็งแรงมากขึ้น ทำให้ทนต่อการฉีกดึง ด้ายจะไม่หลุด และรอยต่อมีความเรียบร้อย 8. พินประกอบ(insert pin) -เป็นส่วนเข็มเล็กๆที่ใช้เสียบเข้ากล่องพิน เพื่อทำหน้าที่ล็อคไม่ให้ปลายหลุด การถอดและใส่เข้า ก็จะทำการดึงที่จุดนี้เพื่อปลดล็อคการเปิดท้าย 9. กล่องพิน(retaining box) -เป็นกล่องที่ใช้คู่กับตัวพินประกอบ ทำหน้าที่เป็นรางหรือเป็นรูกุญแจให้กับพิน ให้เสียบเข้าไปยึดติด

ฟันซิป และ ผ้าซิป ในซิปแต่ละรูปแบบ ลักษณะของฟันซิปและ ผ้าซิปก็จะแตกต่างกันไป ดังนี้ ซิปโลหะ : ฟันทำจากโลหะ ผ้าซิปเป็นผ้ามาตราฐาน ขนาดฟันและความกว้างของผ้า จะเปลี่ยนไปตามเบอร์ของฟัน ซิปไนลอน : ฟันของซิปไนลอนทำมาจากเส้นเอ็นมีความยืดหยุด ผ้าที่ใช้ทอสามารถทำแพทเทิร์นได้ ลายทอบนผ้าจะแตกต่างกันในแต่ละโรงงานผลิต ขนาดฟันและความกว้างของผ้า จะเปลี่ยนไปตามเบอร์ของฟัน ที่ใช้หลักๆมีเบอร์ 3 และ 5 ซิปซ่อน : ฟันเป็นแบบเดียวกับซิปไนลอน แต่จะใช้การผลิตลักาณะพิเศษโดยกลับด้านฟันซิปไปด้านหลังแทน ตัวผ้าซิปจะมีขนาดเล็กและบาง เพื่อให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งานที่ต้องการความเรียบเนียน ไม่เป็นที่สังเกตุ ซิปพลาสติก : ฟันเป็นพลาสติกโดยใช้เครื่องหลอมและฉีดขึ้นรูป ส่วนมากจะมีฟันแบบกระดูกใหญ่และเล็ก ผ้าของซิปพลาสติกจะหนากว่าซิปรูปแบบอื่น

ประเภทของหัวซิป หัวซิปจะมีรูปแบบหลายชนิดขึ้นอยู่กับการใช้งาน โดยแต่ละตัวก็จะมีกลไกพิเศษต่างๆ ไว้โทริจะมาเล่าให้ท่านฟังโอกาสต่อไป หัวซิปที่นิยมใช้กับในปัจจุบันสามารถแบ่งเป็น 4 รูปแบบหลักๆได้ ดังนี้ 1.หัว NON-LOCK -หัวซิปพื้นฐาน เป็นหัวที่สามารถรูดได้อิสระ ใช้ในอุปกรณ์ทั่วไป กระเป๋า เสื้อผ้า ที่ไม่สนใจการเคลื่อนที่ของซิปเนื่องจากไม่มีส่วนที่กระทบในการรูด หัวชนิดนี้หากมีการดึงให้ซิปแยกออกจากกัน ก็จะไหลได้อย่างอิสระ รูปลื่นง่าย แต่ก็ไหลง่ายเช่นกัน 2.หัว PIN-LOCK -หัวซิปที่มีเขี้ยวสำหรับยึดไม่ให้ซิปไหลหรือรูดซิปได้ จะมีกลไกที่เป็นเขี้ยวติดไว้ใต้ป้ายซิปโดยจะล็อคต่อเมื่อเราผลักป้ายซิปลงไปด้านล่าง ฟันก็จะไปงับผ้า หยุดการคลื่นที่ของหัวไว้ได้ การหยุดซิปไม่ให้ซิปไหลส่วนมากจะพบในอุปกรณ์ที่มีแรงตึงมาก เช่นกางเกง 3.หัวSPRING LOCK -เป็นหัวซิปที่มีการทำงานใกล้เคียงกับ PIN-LOCK แต่กลไกด้านในจะมีระบบสปริงขนาดเล็กในหัวซิปใช้ในการล็อคโดยเฉพาะการใช้งานเหมือนหัว PIN-LOCK คือต้องพับป้ายลงถึงจะเกิดการล็อคขึ้น เนื่องจากเป็นระบบที่ละเอียดอ่อนกว่า ราคาจึงสูงกว่าแบบPIN-LOCK และมีแค่ในหัวซิปโลหะเท่านั้น นิยมใช้กันในซิปกางเกงยีนส์ที่มีความพรีเมียม ข้อดีของหัวซิปนี้อีกอย่างคือ หัวซิปจะมีความแบนมากกว่าหัวแบบ PIN-LOCK 4.หัวAUTO-LOCK -หัวซิปที่มีกลไกพิเศษ ดูเผินๆอาจคล้ายกับหัวNON-LOCK แต่ในระบบ AUTO-LOCK จะมีกลไกสปริงด้านในที่ใช้ในการปลดล็อค ชื่อที่มาของAUTO-LOCKนี้ได้มาจาก การที่หัวซิปนี้จะล็อคไม่ให้ขยับตลอดเวลา จะขยับได้ก็ต่อเมื่อเราดึงป้ายซิปเท่านั้น การดึงจะไปทำให้กลไกสปริงปลดตัวล็อคออกและทำให้รูดได้ปกติ จะเห็นได้ว่าซิป 1 ชิ้นมีองค์ประกอบมากมายเลยทีเดียว และแต่ละส่วนก็มาจากเครื่องจักรไม่เหมือนกัน ท่านสามารถกลับไปรับชม ขั้นตอนการผลิตซิป ประกอบได้ หากท่านมีข้อสงสัยประการใดโทริ ยินดีให้คำปรึกษาท่านตลอด หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook #ส่วนประกอบซิป #ซิป #ชนิดของซิป #ข้อมูลซิป #โทริ #โทริไทยแลนด์ #torithailand #ขายซิป


ซิป อุปกรณ์ชิ้นแค่เพียงเล็กๆ แต่คุณรู้ไหมว่า จริงๆแล้วกว่าจะออกมาเป็นซิปได้นั้น ต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนมากมาย และผ่านเครื่องจักรมากกว่า 5 เครื่อง!! วันนี้โทริ จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตซิปกัน โดยจะเป็นขั้นตอนสำหรับซิปโลหะ และซิปพลาสติก ภาพประกอบต่อไปนี้นำมาจากส่วนหนึ่งของวีดีโอสารคดี How its Made




ขั้นตอนผลิตซิป
ขั้นแรก ใส่ผ้าเทปที่ได้จากการทอ ขนาดตามต้องการเข้าไปในเครื่องประกอบฟันซิป

ขั้นตอนผลิตซิป
เครื่องประกอบฟันซิป จะเดินเครื่องกับผ้าเทปขนาดยาวเป็นม้วน ดำเนินการต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

ขั้นตอนผลิตซิป
ในการทำฟันของซิปโลหะ เราจะนำโลหะที่มีขนาดเป็นม้วนมาทำ

เพื่อมาทำฟันของซิปโลหะ
โลหะที่ใช้จะมีลักษณะยาวแบนนำไปบรรจุเครื่องจักร เราจะใช้คำว่าลวด ในการเรียกโลหะแบบนี้


ขั้นตอนผลิตซิป
ลวดโลหะจะถูกนำไปประกอบเป็นฟันซิป

โดยจะมีใบมีดตัดโลหะทำการตัดและดันโลหะไปประกอบในผ้าเทป

ขั้นตอนผลิตซิป
ขั้นตอนนี้สามารถประกอบฟันได้ในอัตรา 45ซี่ต่อ 1วินาที

ขั้นตอนผลิตซิป
จากนั้นจะทำซิปครึ่งฝั่งที่ประกอบเสร็จ มาประกบกันด้วยเครื่องจักร

ขั้นตอนผลิตซิป
เครื่องประกบฟันซิป

ขั้นตอนผลิตซิป
หลังจากนั้นจะนำซิปที่ประกบเสร็จไปเข้าเครื่องทำความสะอาด เพื่อล้างเอาเศษโลหะที่อาจติดมาจากการประกอบ

ขั้นตอนผลิตซิป
จากนั้นเข้าเครื่องสำหรับขัดเคลือบขี้ผึ้งร้อนลงในฟันซิป เพื่อให้มีความลื่นให้รูดได้สะดวก

ขั้นตอนผลิตซิป
ต่อมานำไปเข้าเครื่องแบ่งฟันซิป เพื่อนำไปใช้สำหรับทำขนาดชิ้นที่ต้องการ

ขั้นตอนผลิตซิป
เครื่องนำฟันซิปออก และแบ่งช่วง

หน้าตาของซิปที่ถูกแบ่งแล้ว

ขั้นตอนผลิตซิป
จากนั้น ในกรณีที่ต้องการซิปแบบปิดท้าย จะใช้เครื่องจักรนำลวดโลหะมาปั๊มเกาะเข้าไปเป็นตัวหยุดซิป

ขั้นตอนผลิตซิป
ในกรณีที่เป็นซิปแบบเปิดท้าย จะนำไปเข้าเครื่องให้ความร้อนเพื่อทำแถบให้ผ้าเทปแข็งขึ้น และสามารถนำไปใส่อุปกรณ์ล็อคเปิดท้ายได้

ขั้นตอนผลิตซิป
ขั้นตอนการคัดแยก พินเพื่อนำมาประกอบในท้ายซิปแบบเปิดท้าย

ขั้นตอนผลิตซิป
พินจะผ่านเครื่องลำเลียงเพื่อไปประกบกับเส้นซิปหลัก

ขั้นตอนผลิตซิป
พินที่ถูกนำไปประกบเข้ากับข้างหนึ่งของซิปแล้ว

ขั้นตอนผลิตซิป
ถัดมานำตัวกล่องล็อคมาประกบที่ระดับเดียวกัน

ขั้นตอนผลิตซิป
ลักษณะของซิปหลังจากประกอบตัวเปิดท้ายเรียบร้อย เตรียมนำไปตัดแบ่งส่วนต่อไป

ขั้นตอนผลิตซิป
ถัดมา นำซิปที่ได้ล่าสุดมาประกอบหัวซิปเข้าไป

ขั้นตอนผลิตซิป
เครื่องใส่หัวซิปจะทำการแหวกจุดที่ถูกแบ่งไว้ และเกี่ยวใส่หัวซิปเข้าไป

ขั้นตอนผลิตซิป
หลังจากนั้น นำไปเข้าเครื่องใส่ตัวหยุดหัวซิปที่ด้านบน

ขั้นตอนผลิตซิป
ขั้นสุดท้ายคือการตัดแบ่งซิปที่ทำการประกอบหัวและประกอบตัวหยุดเรียบร้อยแล้ว


ขั้นตอนผลิตซิป
ในส่วนของซิปพลาสติก จะมีความแตกต่างเล็กน้อย โดยจะมีเครื่องที่เกียวข้องน้อยกว่า

ขั้นตอนผลิตซิป
ส่วนที่เป็นพลาสติก เราจะนำเมล็ดพลาสติกสีต่างๆ มาทำความร้อนให้เหลว

ขั้นตอนผลิตซิป
เครื่องจักรจะนำพลาสติกเหลวมาฉีดลงในแม่แบบ แล้วนำไปประกบลงบนตัวซิปเลย โดยเราสามารถกำหนดระยะที่เราต้องการได้ไปในตัว

ขั้นตอนผลิตซิป
ซิปพลาสติกจะมีฟันซิปส่วนเกิน ซึ่งเราสามารถนำมาหลอมทำต่อได้

ทั้งหมดที่เล่ามานี้ เป็นเพียงแค่ช่วงหนึ่งของการผลิตซิปเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆที่จะทำให้ซิปสมบูรณ์ ทั้งการทอผ้าซิป การผลิตแม่พิมพ์หัวซิป ป้ายซิป การทำทำใบมีด การจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงการบรรจุในตอนท้าย ดังนั้นจะเห็นได้ว่าซิปแม้ดูเป็นสิ่งเล็กๆ เป็นแค่ส่วนประกอบตามที่ต่างๆ แต่ซิปก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีกลไกซับซ้อนและอัจฉริยะมากอย่างหนึ่งบนโลก

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า แม้ซิปดูเป็นสิ่งเล็กๆ เป็นแค่ส่วนประกอบตามที่ต่างๆ แต่ซิปก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีกลไกซับซ้อนและอัจฉริยะมากอย่างหนึ่งบนโลก

นอกจากนี้ยังมีซิปชนิดอื่นๆ อีกเช่น ซิปไนลอน ซิปซ่อน ที่มีขั้นตอนการผลิตต่างกันไปในแต่ละส่วน ไว้มีโอกาส โทริจะนำมาเล่าให้ทุกท่านฟังอีกครั้ง ท้ายสุดนี้ขอฝากคลิปวีดีโอที่เรานำภาพมาเล่าให้ทุกท่านฟังได้เข้าไปลองชมกัน ท่านสามารถดู และสั่งซิปกับโทริได้ ดูแบบซิป คลิก


หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook #ขั้นตอนการผลิตซิป #ซิป #การทำซิป #zipper #howiszippermade #โทร#โทริไทย์แลนด์ #torithailand #ขายซิป

bottom of page