top of page

เรื่องดีๆ ที่เราอยากให้คุณรู้

  • รูปภาพนักเขียน: TORI
    TORI
  • 9 มี.ค. 2563
  • ยาว 1 นาที

ซิปคุณภาพดี

ซิปที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ก็มีที่มาจากหลายๆ แหล่ง หลายโรงงานผลิต คำถามที่ลูกค้ามักสงสัยแต่ไม่รู้จะถามใครดีก็คือ "เราจะดูคุณภาพของซิปได้อย่างไรบ้าง" เนื่องจากซิปก็ถือได้ว่าเป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่ถ้าเราไม่ได้สังเกตในตัวคุณภาพ และนำมาใช้ จะเกิดปัญหาต่อผู้บริโภค หรือผู้ใช้สินค้าขั้นปลายสุดได้ ดังนั้นวันนี้โทริเลยจะมานำเสนอวิธีพิจารณาคุณภาพของซิปกันค่ะ

ก่อนที่จะรับฟังเรื่องเล่าจากโทริในครั้งนี้ หากท่านใดที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องส่วนประกอบของซิป สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่นี่ เพื่อความเข้าใจในเรื่องเล่านี้ได้มากยิ่งขึ้นค่ะ : )

หากเราจะดูที่คุณภาพของซิป เราจะต้องดูถึงลักษณะของส่วนประกอบต่างๆ ของซิปประกอบกัน ซึ่งหลักๆที่ต้องสังเกต ได้แก่ ฟันซิป หัวซิป ผ้าซิป โดยเราจะมาดูกันไปทีละส่วนตามนี้ค่ะ

ผ้าซิป

1. ผ้าซิป ความหนาแน่นของเส้นใยก็ส่งผลต่อความแข็งแรง?

ถ้าสังเกตดีๆ เราจะพบว่า ซิปแต่ละเบอร์ทำขึ้นมามีความหนาของเส้นใยผ้าหนาไม่เท่ากัน เนื่องจากส่วนมากซิปเบอร์เล็ก ก็มักใช้กับของชิ้นเล็กๆ ที่ไม่ต้องทนรับแรงมาก ผ้าที่ใช้กับซิปเบอร์เล็กๆ จึงมีความบางกว่า เบอร์ใหญ่ๆ ดังนั้นถ้าจะดูจากผ้าซิปให้ดูเรื่องความแข็งแรงที่เนื้อผ้ารองรับได้ต่อการใช้งานที่เราจะนำไปใช้ค่ะ

ลายผ้าที่ทอบนซิป ส่งผลหรือไม่? ถ้าเราลองค้นหารูปซิปในเว็ปไซท์ต่างๆ เราอาจจะได้เห็นรูปแบบของลายทอขึ้นรูปของผ้าซิปมีลายที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งตามจริงแล้วถ้าแบ่งตามประเภทซิปแล้วจะเห็นได้ว่า ผ้าซิปโลหะมักจะเห็นเป็นลายหนาๆ ไม่ค่อยเน้นแพทเทิร์น ซึ่งเป็นเพราะส่วนมากซิปโลหะจะใช้กับงานที่ต้องการความแข็งแรง เนื้อผ้าที่ต้องการจึงต้องเป็นผ้าหนาให้รับแรงได้ ส่วนซิปไนลอนจะเป็นประเภทที่เราเห็นลายได้หลากหลายที่สุดเนื่องจากมีความอิสระในการใช้มากกว่า โดยที่ส่วนมากลายมักไม่ส่งผลเท่าไหร่นัก ต้องดูที่ความหนาแน่นของเนื้อผ้าเป็นหลักค่ะ ส่วนซิปประเภทซิปซ่อนจะเห็นได้ว่าเนื้อผ้าบางสุด เนื่องจากการใช้งานเป็นแบบเบา และต้องการให้ผ้าซิปบางกลืนกับส่วนอื่นให้มากที่สุดค่ะ


ผ้าซิปแต่ละแบบ
ผ้าในซิปแต่ละประเภท

2. หัวซิป รูดแล้วลื่นปรื้ดคือดีที่สุด?

หนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุดของซิปคือการรูด และก็มีทั้งรูดได้ลื่นสุดๆ กับฝืดบ้าง ปัจจัยนี้ส่งผลอย่างไร และมีเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง? หัวซิปที่ดีจะต้องมีราง ที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับฟันซิปนั้นๆ การที่เรารูดแล้วฝืด อาจจะเป็นเพราะหัวซิปเล็กเกินไปจนฟันซิปกับผ้าซิปเบียดกันในราง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซิปติดบ่อยๆ ได้ค่ะ ส่วนซิปที่รูดแล้วลื่นมาก ก็ไม่ได้ดีเสมอไปนะคะ ตัวนี้เราก็ต้องดูว่าลื่นเกินจนไม่สามารถยึดเกาะได้เลยหรือไม่ บางทีการที่ลื่นไปก็มาจากการที่หัวซิปใหญ่กว่าขนาดฟัน หรือเกิดจากระยะห่างฟันมีมากเกินไป (ซึ่งจะทำให้การยึดติดกันมีประสิทธิภาพลดลงตามมาด้วย) ดังนั้นหัวซิปที่ดีควรที่จะไม่ผืด และไม่ลื่นจนเกินไปค่ะ


หัวซิปไนลอน

วัสดุมีผลหรือไม่?

หัวซิปแต่ละแบบจริงๆ แล้ว ไม่เพียงแค่เรื่องความสวยงาม แต่วัสดุที่ใช้ในการทำหัวซิปแต่ละประเภทก็ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันด้วยค่ะ หากเราใช้เป็นหัวซิปสังกะสี ก็จะมีแนวโน้มที่จะเก่าและมีร่องรอยจากปฎิกิริยาบนโลหะสังกะสีมากกว่าวัสดุอื่นๆ ซึ่งวิธีการที่ช่วยได้คือทำหัวซิปพ่นสีเคลือบ (แต่ก็จะมีปัญหาสีเคลือบจางหรือร่อนลงตามกาลเวลา) ดังนั้นหากเราจึงต้องเลือกวัสดุของหัวซิปให้เข้ากับการใช้งานด้วยค่ะ



ฟันซิป
ฟันซิปแต่ละประเภท

3. ฟันซิป ฟันซิปที่ดีต้องเป็นระเบียบ?

ถูกต้องค่ะ ฟันซิปที่ดีที่สุดคือ ฟันซิปที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ มีฟันและช่องว่างระหว่างฟันที่เท่ากัน ซึ่งฟันที่เป็นระเบียบจะทำให้การรูด และการยึดติดทำได้ดี ในบางกรณีลูกค้าได้สอบถามว่า ได้นำซิปไนลอนไปทำซิปกางเกงยีนส์ออกมาใช้การไม่ได้ เพราะซิปคุณภาพไม่ดีหรือเปล่า? โทริต้องบอกก่อนเลยว่า ฟันซิปในแต่ละแบบก็เหมือนหัวซิป กล่าวคือ ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน อย่างเช่นฟันซิปไนลอนตัวนี้ จะไม่ทนความร้อน ไม่ทนชื้น เมื่อนำไปใส่ในขั้นตอนการผลิตยีนส์ จึงทำให้เกิดความเสียหายได้ ส่วนในฟันซิปพลาสติก เนื่องจากฟันเป็นพลาสติกทั้งหมด ฟันซิปพลาสติกที่ดีจะต้องมีมีรอยแตกหัก เพราะการแตกหักจะส่งผลต่อการรูดโดยตรง


จากที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าซิปที่ทอมาผ้าบาง หรือว่าใช้หัวซิปเป็นแบบสังกะสี จะเป็นซิปที่ไม่ได้คุณภาพทุกกรณีนะคะ เนื่องจากในการผลิตก็จะมีการจัดทำขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานที่เหมาะสม แบบบางๆ บางครั้งก็ถูกผลิตมาเพื่ออุปกรณ์ที่มีระยะเวลาการใช้ที่ไม่นาน เพื่อทำให้เกิดความประหยัดที่สุด แต่คุณสมบัติพื้นฐานที่สำคัญในการรูดก็จะต้องมีด้วย ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือ เราต้องเลือกใช้ซิปตามการใช้งานที่เหมาะสมด้วยค่ะ

หากท่านใดมีความสนใจในเมจิกเทป ตีนตุ๊กแกหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook

#วิธีดูซิป #คุณภาพซิป #ซิปคุณภาพดี #ซิป #โทร#โทริไทยแลนด์ #torithailand

อัปเดตเมื่อ 6 มี.ค. 2563


เมจิกเทป

ทุกท่านเคยสงสัยไหมคะ ว่า เมจิกเทป หรือในชื่อตีนตุ๊กแก หรือเวลโคร ที่เป็นที่รู้จักกัน ที่เราเห็นแต่ละที่นั้น มีความแตกต่างกันหรือเปล่า เมจิกเทปที่ใช้กับรองเท้า ใช้ในอุปกรณ์นิรภัยหรือใช้กับอุปกรณ์สำนักงาน มีความต่างกันไหม แล้วต่างกันยังไง หรือ เมจิกเทปที่ผลิตแต่ละที่มีความต่างอย่างไร ทำไมบางที่ดูแพง บางที่ดูถูกกว่ามาก วันนี้โทริจะมาแนะนำวิธีการดู และการใช้งานเมจิกเทปกันค่ะ

เมจิกเทป

จากเรื่องเล่า ประวัติของเมจิกเทป ทุกท่านอาจจะพอทราบดีแล้วว่า เมจิกเทปนั้นเกิดเพื่อพัฒนาระบบการติดยึดให้ดียิ่งขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลในมาจากธรรมชาติ ทั้งนี้ส่วนประกอบของเมจิกเทปที่สำคัญก็คือ ขน ที่อยู่บนตัวเมจิกเทปนี่เองค่ะ โดยแบ่งเป็นด้านขน และด้านหนาม ด้านขนทำหน้าที่ในการเป็นตัวฐานยึด เป็นลักษณะขุยๆเส้นใย ส่วนด้านหนาม ที่ชื่อด้านหนามก็เพราะว่าเมื่อเวลาเราจับจะรู้สึกกระด้าง และคันๆ เหมือนโดนแทง แต่จริงๆแล้วด้านหนามนี้ในทางสากลเขาจะเรียกว่า ด้านตะขอ หรือ Hook ด้วยลักษณะโครงสร้างที่เป็นตะขอ เพื่อใช้เกี่ยวเข้ากับด้านขนนั่นเอง

เมจิกเทปด้านขนด้านหนาม
รูปแบบของแต่ละด้านของเมจิกเทป

ทีนี้เข้าสู่ประเด็นที่ว่า เมจิกเทป ที่ใช้ในแต่ละอุปกรณ์ หรือที่ผลิตต่างที่กัน มีความแตกต่างกันอย่างไร เราสามารถดูคุณภาพของเมจิกเทปได้ง่ายๆว่า อันไหนเป็นเกรดอย่างไรได้บ้าง?

เมจิกเทป
เกรดต่างๆ ของเมจิกเทป

วิธีง่ายๆเลยค่ะ ส่วนสำคัญของเมจิกเทปอยู่ที่ขนใช้ไหมคะ ดังนั้นเพียงแค่เราดูที่คุณภาพของขนได้เลยค่ะ เมจิกเทปที่มีคุณภาพสูงจะมีขนด้านหนามที่เป็นระเบียบ และถี่ ส่วนด้านขนจะต้องหนาครอบคลุมทั่วแผ่น ดังนั้นที่เราพบเห็นราคาของเมจิกเทปมีหลายราคาถึงแม้จะหน้าตาคล้ายๆกัน ให้ทุกท่านลองดูที่ขนเป็นหลักก่อนเลยค่ะว่าเป็นขนคุณภาพดีตามราคาหรือไม่ เนื่องจากถ้ายิ่งมีขนมาก คุณภาพการยึดติดก็จะมากขึ้นตามกันไป โทริได้นำภาพ แต่ละเกรด(คุณภาพ) ของเมจิกเทปมาเปรียบเทียบให้ได้ลองดูตามด้านล่าง ลองสังเกตที่ความต่างของขนดูนะคะ

เมจิกเทปด้านขน
ด้านขน
เมจิกเทปด้านหนาม
ด้านหนาม

ถึงอย่างไรก็ตาม การที่อุปกรณ์ต่างๆ มีการใช้เมจิกเทปที่ขนน้อย ก็ใช่ว่าจะแปลว่าเขาเอาของถูกมาใช้เพราะต้องการเอากำไรสูงๆซะหมดนะคะ หรือว่าการที่ผลิตให้เมจิกเทปมีขนน้อยๆ มาจำหน่ายเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคอันนี้ก็ไม่จริงไปทั้งหมดนะคะ ในเมจิกเทปแต่ละเกรดก็มีการใช้งานต่างๆของมันเอง อย่างเช่นหากเราจะต้องการทำของแจกเป็นแบบซองใส่แล้วใช้ไม่กี่ครั้ง เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้เกรดแบบดีมากถูกไหมคะ ยิ่งเกรดสูงขนยิ่งมากก็จะยิ่งติดได้แน่น และใช้ได้นานกว่า เพราะขนถี่กว่านั่นเองค่ะ ดังนั้นหากเราต้องการใช้ในอุปกรณ์ประเภทนิรภัยต้องการคุณสมบัติติดแน่น ก็ควรเลือกใช้เมจิกเทปเกรดที่ดีไว้ก่อนค่ะ

หากท่านใดมีความสนใจในเมจิกเทป ตีนตุ๊กแกหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook

#วิธีดูตีนตุ๊กแก #คุณภาพตีนตุ๊กแก #เมจิกเทป #เวลโครเทป

  • รูปภาพนักเขียน: TORI
    TORI
  • 2 ม.ค. 2563
  • ยาว 1 นาที


สวัสดีค่ะ วันนี้โทริมีเรื่องราวดีๆสำหรับคนรักผ้าและการตัดเย็บ มาฝากกันค่ะ นั่นก็คือแหล่งจำหน่ายผ้าหลากหลายทั่วมุมโลกค่ะ สำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวเยี่ยมชมต่างประเทศแล้วอยากแวะเวียนไปชมแหล่งขายผ้าต่างๆตามประเทศวันนี้ โทริได้รวบรวมสถานที่ต่างๆ มาให้ทุกท่านได้ลองรับชมกันค่ะ มาเริ่มกันเลย ไทย : พาหุรัด

พาหุรัด
ที่มา : https://www.wongnai.com/articles/shopping-guide-phahurat-market

แน่นอนว่าหลายๆท่าน ต้องรู้จักอยู่แล้ว สำหรับตลาดขายผ้าที่มีชื่อที่สุดของประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้นพาหุรัดนั่นเองค่ะ ตลาดพาหุรัดตั้งอยู่บนถนนพาหุรัดจึงเป็นที่มาของชื่อ ส่วนที่มาของชื่อพาหุรัดจริงๆนั้นเป็นการตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่สมเด็จเจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย ประไพพรรณพิจิตรนริศราชกุมารี ซึ่งเป็นพระองค์ที่ 1ในสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนารถ ในรัชกาลที่ 5  โดยปัจจุบันเป็นแหล่งขายผ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยค่ะ คลิก เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้เลยค่่ะ



ไต้หวัน : ตลาดผ้าหย่งเล่อ (Yongle Fabric Market)

หย่งเล่อ
ที่มา : https://www.flickr.com/photos/archeytsai_taiwan/25075589200/

สำหรับที่ไต้หวัน ตลาดผ้าที่เก่าแก่ที่สุดมีชื่อเรียกว่า หย่งเล่อซื่อฉ่าง ตั้งอยู่บนถนน Dihua ซึ่งเป็นถนนคนเดินที่มีชื่อของไต้หวัน ที่นี่จะเป็นที่ขายผ้าเป็นตึกๆเสียมากกว่า และจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับพาหุรัดบ้านเราค่ะ แต่นอกจากจะมีผ้าแล้ว แถวนี้ยังเป็นที่รวมของ street food และเป็นแหล่งวัตนธรรมที่สำคัญของที่นี่อีกด้วยค่ะ คลิก เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้เลยค่่ะ



ญี่ปุ่น : ตลาดผ้านิปโปริ (Nippori Textile Town)

นิปโปริ
ที่มา : http://madebychrissied.blogspot.com/2016/06/Exploring-Japan-Tokyo-Nippori-Textile-Town.html

Nippori Texttile Town (นิปโปริ เท็กซ์ไทล์ ทาวน์ ) เป็นย่านที่จำหน่ายผ้าหลากหลายชนิดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่โตเกียว สถานีนิปโปริ ย่านนี้ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 100 ร้าน เรียงรายตามถนนทียาวกว่า 1 กิโลเมตร สินค้าที่ทีจำหน่ายจะเป็นผ้าม้วน ตัดแบ่งขาย และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเย็บผ้า เช่น กระดุม ด้าย ไหมพรม เครื่องหนัง ฯลฯ เป็นแหล่งที่แม่บ้านชาวญี่ปุ่นมักมาเดินเลือกซื้อของไปตัดเย็บกันค่ะ คลิก เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้เลยค่่ะ



เกาหลี : ตลาดผ้าทงแดมุน (Dongdaemun Fashion Town)

ทงแดมุน
ที่มา : https://en.trippose.com/shopping/dongdaemun-shopping-complex

ทงแดมุน เป็นย่าการค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ในกรุงโซล นอกจากจะมีขายผ้ามากมายแล้ว ยังเป็นตลาดค้าส่ง เสือ้ผ้าแฟชั่นต่างๆ ที่แม้แต่นักท่องเที่ยวก็เข้ามาจับจ่ายซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลีกันมากมาย เพราะเป็นย่านที่มีขนาดใหญ่มากเลยทีเดียว มีช้อปปิ้งมอลล์ทั้งหมด 26 ตึก, ร้านค้ามากกว่า 30,000 ร้าน และโรงงานกว่า 50,000 แห่ง เปิดตั้งแต่ประมาณ 10.30 ถึงตี 5 ปิดทุกวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์  เป็นแหล่งซื้อของที่ขึ้นชื่ออย่างมากอีกแห่งของเกาหลีใต้เลยก็ว่าได้ค่ะ คลิก เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้เลยค่่ะ


จีน : ตลาดผ้ามู่ซีหยวน (Muxiyuan Fabric Market)

Muxiyuan
ที่มา : https://www.flickr.com/photos/nberger/2947486396/in/photostream/

ตลาดมู่ซีหยวน เป็นตลาดขายส่งอุปกรณ์การ์เม้นท์ขนาดใหญ่มาก ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งมีทั้ง เสื้อผ้า ขนสัตว์ ซิป กระดุมต่างๆ รวมไปถึงอุปกรณ์การ์เม้นท์อีกมากมาย ถึงจะเป็นตลาดขายส่งแต่ถ้าไปดู หน้าร้านก็จะมีนำเศษมาขายด้วยเช่นกัน และราคาก็จัดว่าถูกมากเลยทีเดียวค่ะ แม้ตัวตลาดจะไม่ใช่ตลาดที่ใหม่ และใหญ่ที่สุด แต่ก็เป็นตลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องการ์เมนท์ไม่แพ้ีท่อื่นเลยค่ะ คลิก เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้เลยค่่ะ



อินเดีย : ตลาดผ้ากานดี นากาช์ (Gandhi Nagar Textile Market)

Gandhi Nagar
ที่มา : https://www.whatsuplife.in/delhi/blog/cheap-affordable-cloth-markets-delhi/

ตลาดผ้ากานดี นากาช์ ตั้งอยู่ใจกลางของกรุงนิวเดลี โดยมีขนาดใหญ่ครอบคลุมมากกว่า 30,000 ร้าน และหนาแน่นไปด้วยสินค้าผ้าจากทั่วประเทศ นอกจากอุปกรณ์การ์เม้นท์ที่มีมากมายแล้ว ยังมีเสื้อผ้าอีกหลากหลายในสถานที่นี้อีกด้วย คลิก เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้เลยค่่ะ



ตุรกี : ตลาดผ้าMahmut Pasha Bazaar

Mahmut Pasha Bazaar
ที่มา : http://www.tourmakerturkey.com/mahmut-pasha-bazaar.html

ตลาดผ้าMahmut Pasha Bazaar ตั้งอยู่ในกรุงอิสตัลบลู เป็นถนนคนเดินที่มีร้านค้าสองข้างทางกว่า 256ร้าน จำหน่ายอุปกรณ์การเม้นท์ เสื้อผ้าต่างๆ เป็นจุดที่รู้กันว่าขายของราคาถูกของชาวตุรกีเลยทีเดียว คลิก เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้เลยค่่ะ


ฝรั่งเศส : ตลาดผ้าMarché Saint Pierre

Marché Saint-Pierre
ที่มา : http://plug-inn.fr/uncategorized/marche-saint-pierre-paris-fabric-district-in-montmartre/

ตลาดผ้า Marché Saint Pierre ตั้งอยู่กรุงปารีส และห้อมล้อมไปด้วย สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยตลาดนี้จะอยู่ในรูปแบบของห้างสรรพสินค้า5 ชั้น ที่มีจำหน่ายตั้งแต่ผ้าสมัยคลาสสิค จนถึงผ้าแบบโมเดิร์น นอกจากนี้บริเวณรอบๆก็ยังมีร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์การ์เม้นท์อีกมากมายด้วย คลิก เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้เลยค่่ะ


อเมริกา : LA Fashion District

ที่มา : https://www.flickriver.com/photos/photolarry/4430542397/

LA Fashion District หรือ ย่านการค้าแฟชั่นลอสแองเจลลิส เป็นย่านที่รวบรวมแฟชั่นต่างๆเอาไว้ขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกา โดยมีร้านค้าส่งค้าปลีกมากกว่า 200ร้าน ที่มีจัดจำหน่านผ้าและอุปกรณ์การ์เม้นท์ืุกชนิด อีกทั้งยังมีจัดการแฟชั่นบ่อยครั้ง โดยจะเห็นดีไซน์เนอร์มาเลือกซื้อสินค้าที่นี่อยู่บ่อยครั้ง คลิก เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้เลยค่่ะ

ยังมีสถานที่อีกหลายแห่งทั่วมุมโลกที่มีตลาดผ้าที่น่าสนใจอีกมากมายเลยนะคะ จริงๆแล้ว โทริว่า ตลาดผ้าถือเป็นแหล่งทางวัฒนธรรมอีกอย่างหนึ่งของประเทศนั้นๆเลย ว่ามั้ยคะ แล้วมีท่านใดเคยไปที่ไหนมาบ้างหรือยังคะ ถ้ามีมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ แต่ที่แน่ๆ โทริว่าจะไปสำรวจที่ Nippori ซักหน่อยละค่ะ ถ้ามีอะไรจะมาเล่าให้ทุกท่านฟังกันครั้งต่อๆ ไปนะคะ :) #โทริ #โทริไทยแลนด์ #torithailand

#แหล่งผ้าทั่วโลก


bottom of page