top of page

เรื่องดีๆ ที่เราอยากให้คุณรู้

อัปเดตเมื่อ 4 ก.ค. 2562


เสียงรูดซิป

วื้ดๆๆ เสียงรูดซิปที่เราได้ยินกันทุกวันจากกระเป๋าดินสอ เสื้อแจ็คเกต หรือแม้แต่เสียงบีท บ็อกซ์ที่สร้างขึ้นจากคนเรา เสียงวื้ดๆที่บางคนก็ชอบ แต่บางคนก็รำคาญ (โดยเฉพาะจากเด็กๆที่กำลังซนรูดไม่หยุดเลย) มีหลักเกิดขึ้นมาได้อย่างไร วันนี้โทริจะขอมาเล่าให้ฟังกันแบบง่ายๆค่ะ

อะไรที่ทำให้ซิปถึงสร้างเสียง?


เสียงรูดซิป
ที่มา : https://www.thoughtco.com/definition-of-frequency-605149

เรามาเริ่มจากการลองหยิบซิปข้างๆตัวมารูดกันดู ง่ายๆเลยเห็นโครงสร้างของมันใช่ไหมคะ การที่เราจะรูดเราจะใช้องค์ประกอบหลักๆอยู่สองส่วนของซิปคือ หัวซิป และฟันซิป พอลองทดสอบรูดดูก็น่าจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนแล้วก็ได้ยินเสียงกันใช่ไหมคะ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เองเกิดมาจากแรงเสียดสีระหว่างฟันซิปทั้งสองด้านมาประกบกันและ เปลี่ยนแปลงพลังงานจลน์หรือพลังงานที่เกิดจากวัตถุทางกายภาพเคลื่อนที่จากการรูด ให้เป็น 'ความร้อน' และ 'เสียง'


ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นไปตามกฎของการอนุรักษ์พลังงาน (Law of conservation of energy : พลังงานเป็นสิ่งที่ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ และไม่สามารถที่จะทำให้สูญหายไปได้ เพียงแต่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้) ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ ในขณะเดียวกันทฤษฎีนี้ก็กล่าวว่าในทางกลับกันมันก็มีโอกาสในบางสถานการณ์ที่เราจะสูญเสียพลังงานบางส่วนกลายเป็นพลังงานส่วนอื่นในขั้นตอนนี้ ซึ่งในเคสของการรูดซิปก็คือ พลังงานกลายเป็นความร้อนและเสียง แรงเสียดสีของหัวซิปกับฟันซิปและ ฟันซิปด้วยกันเองสร้างพลังความร้อนขึ้นมา และ'การสั่นสะเทือน' ที่เกิดขึ้นก็เป็นที่มาของเซียงรูดซิปที่เราได้ยินกัน หลักการของเสียง

เสียงรูดซิป
ที่มา : https://learn.genetics.utah.edu/content/senses/hearing/

จากที่กล่าวมา เสียงของการรูดเกิดจากแรงเสียดสี แต่ที่นี้เรามาดูกันให้ลึกขึ้นว่าหลักการของเสียงเป็นอย่างไร 'เสียง' เกิดจากคลื่นเสียงมีการเคลื่อนที่ อัตราการเคลื่อนที่ในเวลาหนึ่งเราจะเรียกว่า 'ความถี่'(frequency) ส่วนมากจะวัดกันต่อวินาทีโดยมีหน่วยที่อาจจะคุ้นหูกันคือ เฮิร์ตซ์(Hertz) แต่ในกรณีของซิปเรามองง่ายๆว่าเป็นการรูดผ่านกี่ฟันต่อวินาทีก็ได้ค่ะ และด้วยความถี่มากหรือน้อยเป็นผลทำให้เสียงดังหรือเบา ดังนั้นอธิบายง่ายๆคือ เมื่อเรารูดเร็วขึ้นความถี่ของฟันที่รูดผ่านต่อวินาทีก็มากขึ้น เมื่อเรายิ่งรูดเร็วก็จะยิ่งเกิดเสียงรูดซิปที่ดังขึ้นเช่นกัน อีกทั้งยังมีเรื่องของการเกิด'ระดับเสียง'หรือ Pitch ที่มีผลทำให้เกิดเสียงสูงเสียงต่ำ เมื่อความถี่มากเสียงก็จะสูงมากไปตามกัน อ่านเรื่องระดับเสียงเพิ่มเติมได้ที่นี่ บทสรุปการเกิดเสียง

ree

ดังนั้นการที่เรายิ่งรูดซิปขึ้นลงเร็วเท่าไร เสียงที่เกิดก็จะดังและสูงมากขึ้นเท่านั้น และเช่นกัน ถ้าเรารูดช้าก็จะเกิดเสียงต่ำและเบา นอกจากนี้เรื่องวัสดุก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ฟันซิปต่างชนิดกันเช่น ฟันโลหะ ฟันพลาสติก ฟันไนลอน ล้วนมีปริมาณเสียงจากการเสียดสีไม่เท่ากัน หรือแม้กระทั่งความยาวของซิปเองก็มีผล เพราะจะทำให้ความถี่สามารถเป็นไปได้ที่จะมากขึ้นเช่นกันค่ะ

สุดท้ายนี้โทริ ฝากคลิปเสียงซิปที่เจอใน Youtube มาให้ทุกคนลองฟังเล่นกันนะคะ ในคลิปจะมีรูปคลื่นเสียงให้ดูด้วยว่าต่างกันยังไงค่ะ :)


หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook #เรื่องราวซิป #เสียงรูดซิป #ซิป #โทร#โทริไทยแลนด์ #torithailand

 
 
 
  • รูปภาพนักเขียน: TORI
    TORI
  • 7 พ.ค. 2562
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 4 ก.ค. 2562


ซิปแตก

เมื่อมีเกิดย่อมมีดับ ซิปก็เช่นกันค่ะ ซิปทุกชนิดนั้นย่อมมีอายุการใช้งานในตัวของมัน และปัญหาที่เราพบกันบ่อยมากที่สุดคือ การที่ซิปรูดแล้วฟันก็ไม่ปิดหรือที่เราเรียกกันว่า 'ซิปแตก' นั่นเองค่ะ วันนี้โทริจะมานำเสนอว่าทำไมซิปจึงแตกได้ ซิปแตกมีที่มาอย่างไร และเราจะแก้ไขได้อย่างไร

ซิปแตก

รู้จักกับอาการซิปแตก : อาการซิปแตก เกิดจากการที่ส่วนประกอบของหัวซิปเกิดปัญหาขึ้น ส่วนที่ว่าก็คือ ช่องใส่ผ้าซิป และราง (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนประกอบได้ที่นี่) ปัญหาที่ว่านี้คือการเปลี่ยนแปลงทางด้านขนาด ทำให้ความสามารถในการรวบประกบฟันซิปของหัวซิปถดถอยลง ซึ่งโดยส่วนมากเกิดจากการใช้งาน รูด-ดึง ซิป บ่อยๆหรือแรงๆ เมื่อนานๆเข้าแรงที่กระทำต่อหัวซิปผ่านป้ายซิป จะส่งผลทำให้ตัวช่องไหล่ของหัวซิปขยายออก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ความสามารถในการประกบฟันซิปสูญเสียไปนั่นเอง

การทำงานหัวซิป
ภาพประกอบแรงที่เกิดขึ้นในหัวซิป

เราสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้อย่างไรบ้าง? โทริขอนำภาพบางส่วนจาก วิดีโอคลิปทาง Youtube ช่องScience Sir มาประกอบให้ทุกท่านได้ศึกษากันค่ะ ขั้นแรกจะขอเปรียบเทียบซิปที่มีปัญหาก่อนนะคะ สังเกตุได้ชัดว่า หัวซิปที่ปัญหาจะมีช่องว่างของรางที่มากกว่ารางปกติ

ซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

รางเผยอขึ้นออก อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักว่าทำไมซิปประกบกันไม่ได้

ซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

วิธีแก้ง่ายๆคือ ทำให้รางกลับเข้าไปที่เดิม ด้วยความที่หัวซิปส่วนมากทำมาจากโลหะ จึงมีความยืดหยุ่น เราจึงสามารถนำคีมมาบีบให้รางมันกลับเข้าไปได้ทันที **ข้อควรระวัง: ควรออกแรงแต่เบาๆ มิเช่นนั้นหัวซิปอาจจะเบี้ยวและเสียเลยได้**

ซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

ใช้คีมบีบเบาๆที่ปลาย ส่วนที่เผยอ ค่อยๆบีบทีละนิด บีบจนรางกลับมาขนานดังเดิม

ซ่อมซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ ดูภาพเปรียบเทียบด้านล่างประกอบค่ะ

ซ่อมซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

แต่เวลาซ่อมจริงจะลำบากกว่าในตัวอย่างที่นำมาให้ชมนะคะ เพราะว่าจะต้องใช้คีมคีบผ่านวัสดุต่างๆ และเราจะตรวจสอบได้ยากกว่า ฉะนั้นออกแรงแต่เบาๆไว้ก่อนค่ะ

ซ่อมซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

ภาพเปรียบเทียบก่อนซ่อม - หลังซ่อม

ซ่อมซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

เท่านี้ก็สามารถซ่อมกลับมาใช้งานได้ปกติค่ะ แต่ทางที่ดีเราควรดูแลรักษาซิปอย่างถูกวิธีนะคะ ก่อนจบเรื่องเล่านี้ โทริขอฝากวิธีใช้งานและดูแลรักษาซิปให้ทุกท่านค่ะ การใช้งานให้ซิปอยู่กับเราได้นานๆ -เวลารูดซิปหากไม่จำเป็น อย่ารูดเร็วๆ แรงๆ เพราะถ้าเกิดซิปติด หรือกินผ้า จะทำให้ซิปเสียหายได้ง่ายขึ้น -ทุกครั้งก่อนที่จะรูดซิปปิดเปิด ให้จับริมฟันสองข้างให้แนบกันก่อนค่อยรูด เพื่อให้หัวซิปสามารถประกบฟันได้ถูกต้อง -ก่อนที่จะนำซิปไปซัก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กางเกง กระเป๋า หากเป็นไปได้ ควรรูดซิปปิดก่อน ป้องกันการกระทบ รางซิปจะได้ไม่ช้ำ และไม่หักกลาง -ถนอมซิปโดยอาจจะใช้สบู่ หรือเทียนไข ถูฟันซิปทั้งสองด้านทำให้ซิปรูดได้ลื่นขึ้น

หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook #ซิปแตก #ซิป #ข้อมูลซิป #โทร#โทริไทยแลนด์ #torithailand #ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซิป

 
 
 
  • รูปภาพนักเขียน: TORI
    TORI
  • 23 เม.ย. 2562
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 14 ม.ค. 2563


zipper work, การทำงานของซิป

จากเรื่องเล่าครั้งที่แล้วที่โทริได้เล่าเกี่ยวกับ ส่วนประกอบของซิป วันนี้โทริอยากจะมานำเสนอสิ่งที่ลึกลงไปอีกค่่ะ นั่นก็คือการทำงานของซิป ในซิปจะมีส่วนที่สำคัญหลักที่เป็นตัวการในการที่งานของระบบซิปอยู่สองอย่าง นั่นก็คือฟันซิป และหัวซิปนั่นเองค่ะ

zipper, ซิป,หัวซิป

ฟันซิป ไม่ว่าจะเป็นซิปประเภทใดก็ตาม หลักการการทำงานของฟันซิปคือการล็อคประกบ หรือการเกี่ยวยึดกันเองของฟัน ถ้าเป็นฟันซิปโลหะก็จะผลิตจากแผ่นลวดโลหะนำมาตัดเป็นรูปฟันและ ประกบกับตัวผ้าซิป หากเป็นซิปไนลอนจะเป็นการใช้ความร้อนและการเย็บระหว่างเส้นเอ็นกับผ้า ส่วนซิปพลาสติกจะใช้การหลอมบล็อคลงในเนื้อผ้าซิปเลย แต่ไม่ว่าเป็นฟันประเภทใดหลักคิดคือการทำให้เกิดรูปทรงของการเกี่ยวกันขึ้นมาอย่างแน่นเหนียว

zipper teeth, ฟันซิป
ภาพ diagram การเกี่ยวกันของฟันซิป

หัวซิป ส่วนสำคัญที่จะทำให้ฟันซิปประกบกันได้ก็คือหัวซิป หลักการทำงานของหัวซิปสามารถอธิบายได้ง่ายๆ ก็คือ หัวซิปเป็นรางที่นำฟันซิปทั้งสองข้างมารวมประกบกัน โดยหากอธิบายให้ละเอียดหัวซิปจะประกอบไปด้วยส่วนต่างๆดังนี้ 1,ป้ายซิป(puller) : เป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการดึงจับลากหัวซิปให้ขยับ ส่วนนี้สามารถออกแบบได้อย่างอิสระ แต่ต้องทำให้สามารถจับดึงได้ง่าย 2.สันยอด(crown) : เป็นห่วงที่ใช้ยึดป้ายเข้ากับหัวซิป 3.แกน(diamond) : เป็นส่วนโครงสร้างความแข็งแรงหลักภายในซิป มีลักษณะเป็นเหลี่ยมช่วยส่งให้ฟันซิปประกบกัน 4.ไหล่(shoulder) : ส่วนหน้าสุดของรางที่ภายออกมา 5.ช่องใส่ผ้า(tape gap) : รางที่ใช้สอดผ้าและฟันซิปเข้าไป 6.ราง(rail) : รางมีสองส่วนคือรางบนและรางล่าง ซิปที่เกิดปัญหาไหล ส่วนมากเกิดมาจากระยะของรางถูกดึงจนรางทั้งคู่บนล่างห่างออกจากกัน จากการใช้งานดึงหัวซิปบ่อยๆและรุนแรง 7.ปาก(mouth) : ส่วนแรกที่ตัวซิปจะลอดผ่านเข้าไป

ree

ลักษณะของรูปแบบป้ายซิป เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป สองลักษณะ คือ - หัวซิปแบบป้ายสอด : เป็นโครงสร้างแบบพื้นฐานป้ายซิปคล้องโดยตรงกับสันยอดของซิปเลย - หัวซิปแบบป้ายคล้อง : เป็นโครงสร้างที่ถูกพัฒนาภายหลัง โดยจะมี'ห่วงคล้อง'เพิ่มขึ้นมา เพื่อเป็นตัวประสานกับป้ายซิปอีกที ข้อดีของรูปแบบนี้คือ ป้ายซิปสามารถถูกออกแบบได้อย่างอิสระมากกว่า สามารถกำหนดขนาดและ รูปแบบได้หลากหลายกว่า จะพบได้มากในป้ายแฟชั่นต่างๆ


แบบป้ายซิป

เกร็ดเสริม : ทุกท่านเคยสังเกตไหมคะว่า ด้านหลังหัวซิป ส่วนมากเราจะพบตัวเลขและ/หรือตัวอักษร ปรากฎอยู่บนนั้น ตัวเลขนั้นคืออะไร ทราบไหมคะ?

ตัวเลขกับตัวอักษรเหล่านั้น มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยเลยนะคะ โทริขอเฉลยค่ะ ตัวเลขด้านบน : บอกขนาดเบอร์ซิป เช่น จากในรูปด้านล่างคือหัวซิปที่ใช้กับซิปเบอร์5 ตัวอักษรด้านล่าง : ใช้จำแนกแถวในแบบหล่อของหัวซิป (จะกล่าวถัดไป)

ree

การหล่อหัวซิป ในการหล่อหัวซิปจะใช้แม่พิมพ์ที่สามารถพิมพ์หล่อหัวซิปออกมาทีละหลายชุด ดังนั้นหากเกิดปัญหาขึ้นในหัวซิปหนึ่งในแบบพิมพ์ที่หล่อขึ้นมา เราจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าหัวซิปจุดไหนในแม่พิมพ์ที่เป็นปัญหา ดังนั้นการพิมพ์อักษรกำกับเอาไว้จึงช่วยในการแยกแยะ และลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการผลิต (จากในรูปด้านล่าง เราจะนำไปกลึงให้หัวซิปในแบบหลุดออกมา ทำความสะอาดและนำไปใช้ ส่วนแกนแม่พิมพ์ที่เห็นเป็นแท่งจะนำกลับไปหลอมเป็นวัสดุผลิตใหม่ ไม่สิ้นเปลือง)

แม่พิมพ์ซิป
ชุดหัวซิป ที่เพิ่งออกจากแม่พิมพ์ (ยังไม่ผ่านการกลึงให้สวยงาม)

รายละเอียดต่างๆของซิปนั้น ยังมีรายละเอียดมากมายให้ทุกท่านได้ศึกษา ไม่ว่าจะเป็นกลไกต่างๆ หรือวิธีการ หัวข้อต่างๆเกี่ยวกับซิปและอุปกรณ์การเมนท์ โทริยินดีและพร้อมให้ความรู้และเรื่องเล่าดีๆแก่ท่านเสมอ โทริขอปิดท้ายด้วยคลิปวิดีโอแสดงภาพการรูดซิปและการทำงานของฟันซิปให้ท่านได้ชมค่ะ

หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook #การทำงานของซิป #ซิป #ข้อมูลซิป #โทร#โทริไทยแลนด์ #torithailand #ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซิป

 
 
 
bottom of page