top of page

เรื่องดีๆ ที่เราอยากให้คุณรู้



ซิปได้ถูกคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ.1913 ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ได้มีซิปหลากหลายประเภทเกิดขึ้นมา ซึ่งซิปแต่ละชนิดก็จะมีการใช้งานที่แตกต่างกันไปบ้าง จากการมีคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ทำแตงต่างกัน ซึ่งโดยส่วนมากจะมาจากวัสดุที่ใช้เป็นฟันซิป วันนี้ โทริ จึงอยากนำเสนอประเภทของซิปให้ทุกท่านได้ศึกษากัน

1. ซิปไนลอน ซิปไนลอน เป็นซิปที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อยที่สุด เพราะเป็นซิปมาตราฐานชนิดแรกที่คนนิยมใช้ เนื่องด้วยราคาไม่แพง และมีความยืดหยุ่นสูง มักพบได้ในงานการ์เมนท์ทั่วไป งานกระเป๋า วัสดุหลักของซิปประเภทนี้คือ ตัวผ้ากับเส้นเอ็น ดังนั้นจึงมีข้อเสียคือ ไม่ทนความร้อนและเกิดการยับงอได้ค่อนข้างง่าย แต่สามารถรีดด้วยความร้อนไม่สูงมากได้ หมายเหตุ : ปัจจุบันในไทยส่วนมากซิปไนลอนจะใช้โพลีเอสเตอร์ทำหมดแล้ว แต่ยังคงติดชื่อเรียกทางการค้าว่าซิปไนลอนอยู่

ข้อดี

  1. ราคาไม่สูง

  2. มีความยืดหยุ่นสูง สามารถนำไปใช้ได้หลายรูปแบบ

  3. ทำความสะอาดง่าย

  4. ติดตั้งง่าย

ข้อเสีย

  1. มีความคงทนต่ำ

  2. ไม่ทนต่อความร้อน

  3. ยับงอง่าย (แต่รีดได้)



2. ซิปโลหะ ซิปโลหะ จะมีฟันซิปที่ทำจากวัสดุโลหะตามชื่อ ซึ่งส่วนมากที่นิยมใช้ในซิปโลหะคือ ทองเหลือง ทำให้ราคาของซิปโลหะจะสูงกว่าซิปชนิดอื่น แต่นอกเหนือจากความหรูหราของวัสดุ เรายังได้ความแข็งแรงของซิปที่เพิ่มขึ้นมาด้วย วัสดุนอกจากทองเหลือง เรายังสามารถใช้เป็น อลูมิเนียม เหล็ก และทำสีผิวต่างกันไปในแต่ละเทคนิกการผลิต ด้วยความคงทนของมัน เราจึงมักนิยมใช้ซิปโลหะนี้ตามกางเกงยีนส์ กระเป๋าแบรนด์ต่างๆ เป็นต้น ข้อดี

  1. คงทน

  2. ดูหรูหรา มีคุณค่า

ข้อเสีย

  1. ราคาค่อนข้างสูง

  2. มีความกระด้างมากกว่าซิปชนิดอื่น

  3. สีของโลหะสามารถหม่นลงได้ตามอายุการใช้งาน ต้องมีการทำความสะอาดดูแลรักษา

  4. นำไฟฟ้า และ ความร้อน-เย็น


3. ซิปพลาสติก ซิปพลาสติก ทำจากการฉีดพลาสติกขึ้นรูปเป็นฟันซิป เราเรียกซิปพลาสติกอีกอย่างว่า ฟันกระดูก เนื่องจากรูปลักษณ์โครงสร้างที่ดูแล้วคล้ายกับกระดูสันหลัง ด้วยการที่เป็นพลาสติกเราจึงสามารถผสมทำสีอะไรก็ได้ และข้อดีอย่างหนึ่งคือ ซิปพลาสติกจะมีฟันใหญ่ ไม่คม ทำให้เป็นมิตรกับเด็ก และด้วยความที่ไม่นำความร้อนหรือเย็น จึงนิยมใช้แทนซิปโลหะในประเทศแถบที่มีอากาศหนาวเย็น เวลาสัมผัสจึงไม่รู้สึกหนาวมือ อีกทั้งยังคงทนต่อน้ำ สามารถกันน้ำได้มากกว่าซิปประเภทอื่นๆ ข้อดี

  1. ฟันซิปไม่คม เป็นมิตรกับเด็ก

  2. ดูเป็นงานปราณีตกว่าซิปไนลอน

  3. ไม่นำความร้อน-เย็น

  4. มีคุณสมบัติทนต่อน้ำมากกว่าซิปชนิดอื่น

ข้อเสีย

  1. ฟันมีขนาดใหญ่ ไม่สามารถใช้ในบางงานที่ต้องการขนาดเล็กได้

  2. มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าชนิดอื่นๆ เพราะฟันมีขนาดใหญ่และแข็ง


4.ซิปซ่อน ซิปซ่อนเกิดมาด้วยจุดประสงค์ที่อยากจะลดความเด่นของซิปออกไปจากเสื้อผ้า เพราะซิปทั่วไปจะเห็นฟันซิปชัดเจนเวลาติดตั้ง แต่ซิปซ่อนจะมีเป็นกลไกซิปพิเศษที่จะกลับด้านฟันซิปไปไว้ด้านในแทน ทำให้เราสามารถซ่อนฟันและรอยต่อได้อย่างแนบเนียน ส่วนมากที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ซิปที่กระโปรง หรือตามชุดเดรส ที่เน้นความสวยงามและปราณีต ข้อดี

  1. ไม่โชว์ฟันซิปเวลาติดตั้ง ทำให้ดูเรียบเนียน

  2. ซิปมีขนาดเล็ก สามารถใช้กับงานดีเทลเล็กๆ ได้สะดวก

ข้อเสีย

  1. ความคงทนต่อการดึงต่ำ

  2. ติดตั้งยากกว่าซิปแบบอื่นๆ มีวิธีการเย็บพิเศษ


"ซิปแต่ละเภท หากนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพ และเอกลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ ได้อย่างดี"


หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook

#ประเภทซิป #แบบซิป #รุ่นซิป #ชนิดของซิป #ข้อมูลซิป #ซิปไนลอน #ซิปโลหะ #ซิปพลาสติก #ซิปกระดูก #ซิปซ่อน #ซิป #โทริ #โทริไทยแลนด์ #torithailand



ตั้งแต่เราเกิดมาก็มีสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า ซิป (zipper ในภาษอังกฤษ) อยู่คู่เสื้อผ้าและของใช้ของเรามาตลอด จนแทบจะนึกไม่ออกเลยว่าถ้าโลกนี้เราไม่มีซิปมันจะเป็นยังไง ถ้าอย่างนั้น คุณเคยสงสัยไหมว่า ซิป ที่ใครๆ ต่างก็รู้จักและใช้งานเป็นนี้ มีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไร กว่าจะมาเป็นแบบที่เราใช้กันในปัจจุบัน ในยุคเริ่มแรก

นวัตกรรมในการรัดติดเครื่องแต่งกายได้เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อมีคนคิดค้นสิ่งที่เรียกว่า 'กระดุม' ออกมา ซึ่งก็ใช้ได้ดีในหลายๆทาง แต่ถึงอย่างไรโลกก็ยังไม่หยุดพัฒนา คนเราก็ยังไม่หยุดคิด จึงเกิดนวัตกรรมการรัดติดใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ ต้นทางของซิปเริ่มมาจากการพัฒนาต่อ ยอดจากกระดุมของ อีเลียส ฮาว(Elias Howe) ชาวอเมริกัน ผู้คิดค้นเครื่องเย็บจักรขึ้นมาเป็นคนแรก เขาได้จดสิทธิบัตรวิธีการยึดติดแบบต่อเนื่องอัตโนมัติ ในปี ค.ศ.1851 โดยไอเดียนี้เองถูกนำมาเป็นพื้นฐานในการผลิตซิปขึ้นในภายหลัง

photo : https://www.wikipedia.org

การพัฒนาต่อ 40 กว่าปีต่อมา ได้มีพัฒนาการที่สำคัญเกิดขึ้น โดยนักประดิษฐ์ที่สำคัญคนหนึ่งของโลก วิทคอมบ์ จัดสัน (Whitcomb Judson) เห็นปัญหาของการที่คนเสียเวลาต้องกลัดกระดุมรองเท้าก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง จึงได้พัฒนาต่อยอดไอเดียของ Howe ในการทำระบบรัดติดแบบใหม่ และในปีค.ศ.1893 เขาได้จดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ที่เขาให้ชื่อว่า 'Clasp locker' (แคลปส์ ล็อคเกอร์) ที่เป็นการใช้ระบบห่วงล็อคตะขอในการรัดติดรองเท้า เขาได้ก่อตั้งบริษัทเพื่อเริ่มต้นธุรกิจกับ Clasp locker นี้ขึ้น โดยภายหลังได้เปลี่ยนเป็นชื่อผลิตภัณฑ์เป็น 'C-curity' แทน แต่ถึงอย่างไรธุรกิจเขาก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากตัวระบบล็อคนี้ยังมีความไม่สมบูรณ์ในการใช้งานเท่าที่ควร

photo : https://www.wikipedia.org

ซิปตัวแรกของโลก และในที่สุด ในปีค.ศ.1913 ซิปแบบที่เราใช้ในปัจจุบันก็ถูกคิดค้นขึ้นโดย กิเดียน ซันแบ็ค (Gideon Sundback) วิศวกร ชาวสวีเดน-อเมริกัน เขาทำงานในบริษัท Universal Fastener(ต่อมาพัฒนาเป็น Talon.Inc) ในตำแหน่งหน้าที่ฝ่ายคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเขารับหน้าที่ในการพัฒนาต่อยอด C-curity ของ Judson ในครั้งเริ่มแรกเขาได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ชื่อ Plako ที่ใช้ระบบตะขอห่วงเกี่ยวแบบเดียวกับของ Judson แต่ว่าก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะปัญหาการดึงหลุดของขอเกี่ยว ซึ่งในภายหลังเขาก็สามารถหาวิธีแก้ปัญหานี้ได้สำเร็จ โดยการเพิ่มความถี่ของจุดเกี่ยว และเปลี่ยนแบบจากห่วงขอเกี่ยว เป็นแบบฟันเขี้ยวในการยึดติด โดยมีหัวรางเลื่อนเป็นตัว เลื่อนเปิดปิดการล็อค และในท้ายที่สุดเขาได้พัฒนามัน จนกลายเป็นซิปแบบปัจจุบัน ในปีค.ศ.1917 ในชื่อ 'Separable fastener' (ตัวรัดติดที่แยกกันได้)

photo : https://www.wikipedia.org

"แต่คำว่า ซิป หรือ zipper ที่เราใช้ เกิดขึ้นตอนไหน?"

Sundback ผู้ที่คิดค้น ไม่ได้เป็นคนตั้งคำว่า ซิป ที่เราใช้กันในปัจจุบัน แต่คำว่า ซิป หรือ zipper เกิดขึ้นโดย บริษัท B.F. Goodrich ( บี.เอฟ. กู๊ดริช) ได้นำระบบ Separable fastener ของ Sundback มาใช้ในการทำรองเท้าบูทยาง ซึ่งชื่อ zipper ก็ได้ตั้งขึ้นจากเสียงเวลารูดปิด และตั้งแต่นั้นมา ชื่อนี้ก็กลายเป็นที่โด่งดังจนกลายมาเป็นชื่อเรียกแทนในปัจจุบัน เริ่มแรกซิปมีการใช้มากในรองเท้าบูท และถุงใส่ยาสูบ หลังจาก 20 ปีถัดมาจึงเริ่มขยับขยายมาสู่วงการอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยแรกเริ่มได้ใช้ซิปแทนกระดุมในกางเกงของผู้ชาย และพอมีการคิดค้นซิปแบบเปิด-ปิดท้ายได้ จึงเริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นจนมาเป็นซิปที่เราเห็นกันในปัจจุบัน ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องนอน เครื่องหนัง วัสดุตกแต่ง ล้วนมีซิปในองค์ประกอบ และการพัฒนาต่างๆ ทำให้เรามีซิปหลากหลายรูปแบบ ที่มีการใช้งานแตกต่างกันไปในแต่ละจุดประสงค์ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของเรา และที่ บริษัท โทริ(ไทยแลนด์) เราเป็นทั้งผู้ผลิต และจัดจำหน่ายซิปหลากหลายชนิด พร้อมที่จะเสนอแนะนำ รูปแบบการใช้ซิปให้แก่ลูกค้าทุกท่าน เพื่อการเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนของลูกค้าต่อไป ดููรูปแบบซิปเราได้ที่นี่ คลิก


หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook ขอขอบคุณแห่ลงที่มาของข้อมูล https://curiosity.com/topics/the-origin-of-the-zipper-curiosity/ https://www.thoughtco.com/history-of-the-zipper-4066245 https://wonderopolis.org/wonder/who-invented-the-zipper https://www.thomasnet.com/articles/hardware/zipper-history https://en.wikipedia.org/wiki/Zipper https://en.wikipedia.org/wiki/Elias_Howe https://en.wikipedia.org/wiki/Gideon_Sundback https://en.wikipedia.org/wiki/Whitcomb_L._Judson #ต้นกำเนิดซิป #ความเป็นมาซิป #ประวัติซิป #เรื่องราวซิป #ซิป #โทริ #โทริไทยแลนด์ #torithailand

bottom of page