top of page

เรื่องดีๆ ที่เราอยากให้คุณรู้

อัปเดตเมื่อ 16 ต.ค. 2563


ความลับซิปซ่อน

เราต่างก็เคยเห็นซิปซ่อนกันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ โดยส่วนมากจะเห็นได้บ่อยๆ ตามเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายของสุภาพสตรีเป็นหลัก ด้วยการที่มีความสามารถในการ 'อำพราง' ตัวเองบนเสื้อผ้าหรืองานตัดเย็บต่างๆ เมื่อมองจากภายนอกแทบจะนึกแค่ว่าเป็นรอยต่อเล็กน้อยของผืนผ้า ด้วยประการนี้จึงเป็นที่มาของชื่อที่เรารู้จักกันว่า 'ซิปซ่อน' ยังไงละคะ แต่มากกว่านั้น วันนี้โทริจะมานำเสนอความลับ หรือเรียกกันว่า เปิดโปงความลับของตัวซิปซ่อนให้ได้ชมกันค่ะ

ซิปซ่อน

ซิปซ่อน หรือในภาษาอังกฤษคือ Invisible Zipper / Conceal Zipper ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นในช่วงปี 1950 ซึ่งในตอนนั้นเองยังไม่ได้เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายดังปัจจุบัน จุดเริ่มต้นของซิปซ่อนคือ ความพยายามที่จะหาวิธีการปิดบังรอยต่อซิป-ฟันซิป ที่ปกติจะเห็นอยู่ทุกครั้งเวลาซิปอยู่บนเสื้อผ้าหรือ สิ่งของต่างๆ ดังนั้นไอเดียที่จะมาเป็นซิปซ่อนจึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา

แล้วซิปซ่อน มีจุดไหน มีระบบใด ที่ต่างจากซิปทั่วไปบ้าง?

โทริจะขอยกซิป 'ไนลอน' มาเปรียบเทียบกับซิปซ่อนให้ดูนะคะ ที่ใช้ซิปไนลอนเปรียบเทียบเนื่องจาก ซิปไนลอนเป็นซิปที่เรียกได้ว่าเป็นซิปพื้นฐานของซิปทุกประเภท ใช้กันแพร่หลายมากที่สุด และวัสดุที่ใช้ทำยังใกล้เคียงกันกับซิปซ่อนมากที่สุดค่ะ เรามาเริ่มดูกันที่ลักษณะทั่วไปภายนอกของซิปซ่อนกันก่อนนะคะ


ree
ซิปซ่อน

เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างซิปซ่อนกับซิปไนลอน จะเห็นได้ชัดว่ามีความแตกต่างกันดังนี้ ป้ายซิป ป้ายของซิปซ่อนส่วนใหญ่จะเป็นแบบกลมมนเล็กเนียนเรียบ แต่ของซิปทั่วไปจะมีลักษณะแบนเสียมากกว่า โดยป้ายของซิปซ่อนมักจะมาในสีเดียวกันกับผ้าซิป เพื่อให้มีความกลมกลืนกับเนื้อผ้า หัวซิป หัวซิปของซิปซ่อนจะมีรูปแบบที่ค่อนข้างตายตัว เป็นระบบ Non-Lock เนื่องจากถ้ามีระบบหัวล็อคแบบอื่นจะทำให้ขนาดของหัวซิปนั้นใหญ่ขึ้น และนำไปใช้งานได้ไม่เหมาะสม แต่สังเกตได้ว่ารูปร่างของหัวซิปจะแตกต่างจากซิปปกติทั่วไป คือมีลักษณะเป็นสันวิ่งขึ้นมา และมีห่วงคล้องป้ายซิปในแนวตั้งแทน (ดูภาพวาดประกอบได้จากด้านล่าง) ในขนาดที่เท่ากันหัวซิปซ่อนมักจะใหญ่กว่าหัวซิปไนลอนเบอร์3 เนื่องจากโครงสร้างจำเป็นต้องมีขนาดรางที่ยาวกว่า


ซิปซ่อน
ซิปซ่อน

ซิปไนลอน
ซิปไนลอน

ฟันซิป ฟันซิปของซิปซ่อนจะทำมาจากวัสดุเดียวกันเพียงแต่รูปแบบการทอติดกับเนื้อผ้าจะเป็นคนละลักษณะกัน (จะกล่าวหลังจากนี้ค่ะ) ผ้าซิป ผ้าซิปของซิปไนลอนและซิิปซ่อนจะทอจากเส้นใยโพลิเอสเตอร์เหมือนกัน แต่ผ้าซิปไนลอนจะใช้ผการทอผ้าแบบทั่วไป เน้นให้เนื้อผ้าเต็มผืนมีความหนาทนทาน แต่ในซิปซ่อนผ้าที่ใช้ในการประกอบซิปซ่อนจะถูกทอด้วยเครื่องทออีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะให้รูปแบบผ้าที่ออกมามีความโปร่ง ยืดหยุ่นกว่า โดยหากสังเกตดีๆ รูปแบบการทอจะเป็นลักษณะ 'เปียไขว้เปีย' ยึดเข้าด้วยกัน คล้ายๆกับการถักเสื้อสเวตเตอร์ ซึ่งการทอรูปแบบนี้ส่งผลทำให้โครงสร้างของผ้ามีความอ่อนนุ่มยืดหยุดทั้งใช้ในเรื่องของโครงสร้างซิปแล้ว(จะกล่าวต่อไป) ยังรับกับการใช้งานที่อยากจะให้ซิปนั้นดูบางเรียบหายไปกับผ้าอีกด้วย


ฟันซิป

ตัวหยุดซิป ทั่วไปซิปไนลอนหรือโลหะจะใช้ลักษณะของการงับวัสดุต่างๆลงบนฟันซิปพื้นใช้เป็นตัวเบรกให้หยุด หรือยึดปิดท้าย แต่ในซิปซ่อนจะใช้โพลิเอสเตอร์ชิ้นเล็กๆติดลงไปบนเนื้อผ้า โดยโพลิเอสเตอร์จะยึดติดกับฟันซิป-เนื้อผ้าโดยกระบวนการหลอมละลายโดยคลื่นอัลตราโซนิค ส่วนตัวปิดท้ายจะใช้วิธีเดียวกันหลอมให้ฟันซิปติดกัน เป็นอันเสร็จสมบูรณ์


ปิดท้าย

แล้วซิปซ่อนมีกระบวนการพิเศษกว่าซิปทั่วไปอย่างไร?

ในเรื่องโครงสร้าง เรียกได้ว่าซิปซ่อนคือการนำรูปแบบของซิปที่มีอยู่มาประยุกต์ให้เกิดการใช้งานรูปแบบใหม่ โดยระบบของซิปซ่อนสามารถอธิบายง่ายๆได้คือ 'ซิปซ่อนเกิดจากการพลิกกลับด้านของฟันซิปจากบนลงล่าง จากซ้ายไปขวา'


ระบบซิป

กล่าวคือถ้าหากสังเกตตัวฟันซิปของซิปซ่อนจะอยู่ด้านล่างใช่ไหมคะ นั่นแหละค่ะคือการบิดฟันซิปม้วนลงไปด้านใต้ พอรูปซิปเนื้อผ้าด้านบนก็จะยึดติดกันไม่เห็นร่องรอยฟัน และอีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อม้วนฟันซิปลงมาแล้ว ในการทอฟันซิปเข้าไปปกติเราจะให้ฟันซิปหันไปด้านนอกผ้า แต่ในซิปซ่อนเราจะกลับฝั่งมาไว้ข้างใน เมื่อมีการม้วนฟันลงไปตัวฟันนี้เองก็จะกลับมาหันประกบกันได้พอดีเหมือนลักษณะของซิปทั่วไป แต่เรียกได้ว่า 'เป็นการกลับหัวกลับหางฟันซิป' นั่นเองค่ะ


ระบบซิป

ทั้งนี้ ซิปซ่อน เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เกิดจากการลองผิดลองถูกกันมา ตั้งแต่สมัยก่อน ซิปซ่อนก็มีลักาณะเหมือนซิปไนลอนทั่วไป แค่เป็นการกลับด้าน แต่ผ้าซิปก็ยังไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ยืดหยุ่นทนต่อการดีดตัวของฟันเวลาม้วนลง ทำให้ใช้งานได้ไม่ดี ฝืดบ้างเสียบ้าง แต่ในที่สุดเราก็ได้มีซิปซ่อนที่มีประสิทธิภาพใช้กันในปัจจุบัน ต้องขอขอบคุณคนรุ่นก่อนๆ ที่คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ ที่ทำให้ชีวิตของเราอยู่ได้อย่างสบาย และสวยงามมากขึ้นเลยนะคะ


สนใจซิป ดูผลิตภัณฑ์ของเราเพิ่มเติมที่นี่ คลิก


หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook


#ซิปซ่อน #ระบบซิปซ่อน #ความลับของซิปซ่อน #การทำงานซิปซ่อน #ซิป #โทร#โทริไทยแลนด์

 
 
 

อัปเดตเมื่อ 4 ก.ค. 2562


เสียงรูดซิป

วื้ดๆๆ เสียงรูดซิปที่เราได้ยินกันทุกวันจากกระเป๋าดินสอ เสื้อแจ็คเกต หรือแม้แต่เสียงบีท บ็อกซ์ที่สร้างขึ้นจากคนเรา เสียงวื้ดๆที่บางคนก็ชอบ แต่บางคนก็รำคาญ (โดยเฉพาะจากเด็กๆที่กำลังซนรูดไม่หยุดเลย) มีหลักเกิดขึ้นมาได้อย่างไร วันนี้โทริจะขอมาเล่าให้ฟังกันแบบง่ายๆค่ะ

อะไรที่ทำให้ซิปถึงสร้างเสียง?


เสียงรูดซิป
ที่มา : https://www.thoughtco.com/definition-of-frequency-605149

เรามาเริ่มจากการลองหยิบซิปข้างๆตัวมารูดกันดู ง่ายๆเลยเห็นโครงสร้างของมันใช่ไหมคะ การที่เราจะรูดเราจะใช้องค์ประกอบหลักๆอยู่สองส่วนของซิปคือ หัวซิป และฟันซิป พอลองทดสอบรูดดูก็น่าจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนแล้วก็ได้ยินเสียงกันใช่ไหมคะ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เองเกิดมาจากแรงเสียดสีระหว่างฟันซิปทั้งสองด้านมาประกบกันและ เปลี่ยนแปลงพลังงานจลน์หรือพลังงานที่เกิดจากวัตถุทางกายภาพเคลื่อนที่จากการรูด ให้เป็น 'ความร้อน' และ 'เสียง'


ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นไปตามกฎของการอนุรักษ์พลังงาน (Law of conservation of energy : พลังงานเป็นสิ่งที่ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ และไม่สามารถที่จะทำให้สูญหายไปได้ เพียงแต่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ได้) ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ ในขณะเดียวกันทฤษฎีนี้ก็กล่าวว่าในทางกลับกันมันก็มีโอกาสในบางสถานการณ์ที่เราจะสูญเสียพลังงานบางส่วนกลายเป็นพลังงานส่วนอื่นในขั้นตอนนี้ ซึ่งในเคสของการรูดซิปก็คือ พลังงานกลายเป็นความร้อนและเสียง แรงเสียดสีของหัวซิปกับฟันซิปและ ฟันซิปด้วยกันเองสร้างพลังความร้อนขึ้นมา และ'การสั่นสะเทือน' ที่เกิดขึ้นก็เป็นที่มาของเซียงรูดซิปที่เราได้ยินกัน หลักการของเสียง

เสียงรูดซิป
ที่มา : https://learn.genetics.utah.edu/content/senses/hearing/

จากที่กล่าวมา เสียงของการรูดเกิดจากแรงเสียดสี แต่ที่นี้เรามาดูกันให้ลึกขึ้นว่าหลักการของเสียงเป็นอย่างไร 'เสียง' เกิดจากคลื่นเสียงมีการเคลื่อนที่ อัตราการเคลื่อนที่ในเวลาหนึ่งเราจะเรียกว่า 'ความถี่'(frequency) ส่วนมากจะวัดกันต่อวินาทีโดยมีหน่วยที่อาจจะคุ้นหูกันคือ เฮิร์ตซ์(Hertz) แต่ในกรณีของซิปเรามองง่ายๆว่าเป็นการรูดผ่านกี่ฟันต่อวินาทีก็ได้ค่ะ และด้วยความถี่มากหรือน้อยเป็นผลทำให้เสียงดังหรือเบา ดังนั้นอธิบายง่ายๆคือ เมื่อเรารูดเร็วขึ้นความถี่ของฟันที่รูดผ่านต่อวินาทีก็มากขึ้น เมื่อเรายิ่งรูดเร็วก็จะยิ่งเกิดเสียงรูดซิปที่ดังขึ้นเช่นกัน อีกทั้งยังมีเรื่องของการเกิด'ระดับเสียง'หรือ Pitch ที่มีผลทำให้เกิดเสียงสูงเสียงต่ำ เมื่อความถี่มากเสียงก็จะสูงมากไปตามกัน อ่านเรื่องระดับเสียงเพิ่มเติมได้ที่นี่ บทสรุปการเกิดเสียง

ree

ดังนั้นการที่เรายิ่งรูดซิปขึ้นลงเร็วเท่าไร เสียงที่เกิดก็จะดังและสูงมากขึ้นเท่านั้น และเช่นกัน ถ้าเรารูดช้าก็จะเกิดเสียงต่ำและเบา นอกจากนี้เรื่องวัสดุก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ฟันซิปต่างชนิดกันเช่น ฟันโลหะ ฟันพลาสติก ฟันไนลอน ล้วนมีปริมาณเสียงจากการเสียดสีไม่เท่ากัน หรือแม้กระทั่งความยาวของซิปเองก็มีผล เพราะจะทำให้ความถี่สามารถเป็นไปได้ที่จะมากขึ้นเช่นกันค่ะ

สุดท้ายนี้โทริ ฝากคลิปเสียงซิปที่เจอใน Youtube มาให้ทุกคนลองฟังเล่นกันนะคะ ในคลิปจะมีรูปคลื่นเสียงให้ดูด้วยว่าต่างกันยังไงค่ะ :)


หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook #เรื่องราวซิป #เสียงรูดซิป #ซิป #โทร#โทริไทยแลนด์ #torithailand

 
 
 
  • รูปภาพนักเขียน: TORI
    TORI
  • 7 พ.ค. 2562
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 4 ก.ค. 2562


ซิปแตก

เมื่อมีเกิดย่อมมีดับ ซิปก็เช่นกันค่ะ ซิปทุกชนิดนั้นย่อมมีอายุการใช้งานในตัวของมัน และปัญหาที่เราพบกันบ่อยมากที่สุดคือ การที่ซิปรูดแล้วฟันก็ไม่ปิดหรือที่เราเรียกกันว่า 'ซิปแตก' นั่นเองค่ะ วันนี้โทริจะมานำเสนอว่าทำไมซิปจึงแตกได้ ซิปแตกมีที่มาอย่างไร และเราจะแก้ไขได้อย่างไร

ซิปแตก

รู้จักกับอาการซิปแตก : อาการซิปแตก เกิดจากการที่ส่วนประกอบของหัวซิปเกิดปัญหาขึ้น ส่วนที่ว่าก็คือ ช่องใส่ผ้าซิป และราง (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนประกอบได้ที่นี่) ปัญหาที่ว่านี้คือการเปลี่ยนแปลงทางด้านขนาด ทำให้ความสามารถในการรวบประกบฟันซิปของหัวซิปถดถอยลง ซึ่งโดยส่วนมากเกิดจากการใช้งาน รูด-ดึง ซิป บ่อยๆหรือแรงๆ เมื่อนานๆเข้าแรงที่กระทำต่อหัวซิปผ่านป้ายซิป จะส่งผลทำให้ตัวช่องไหล่ของหัวซิปขยายออก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ความสามารถในการประกบฟันซิปสูญเสียไปนั่นเอง

การทำงานหัวซิป
ภาพประกอบแรงที่เกิดขึ้นในหัวซิป

เราสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้อย่างไรบ้าง? โทริขอนำภาพบางส่วนจาก วิดีโอคลิปทาง Youtube ช่องScience Sir มาประกอบให้ทุกท่านได้ศึกษากันค่ะ ขั้นแรกจะขอเปรียบเทียบซิปที่มีปัญหาก่อนนะคะ สังเกตุได้ชัดว่า หัวซิปที่ปัญหาจะมีช่องว่างของรางที่มากกว่ารางปกติ

ซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

รางเผยอขึ้นออก อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักว่าทำไมซิปประกบกันไม่ได้

ซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

วิธีแก้ง่ายๆคือ ทำให้รางกลับเข้าไปที่เดิม ด้วยความที่หัวซิปส่วนมากทำมาจากโลหะ จึงมีความยืดหยุ่น เราจึงสามารถนำคีมมาบีบให้รางมันกลับเข้าไปได้ทันที **ข้อควรระวัง: ควรออกแรงแต่เบาๆ มิเช่นนั้นหัวซิปอาจจะเบี้ยวและเสียเลยได้**

ซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

ใช้คีมบีบเบาๆที่ปลาย ส่วนที่เผยอ ค่อยๆบีบทีละนิด บีบจนรางกลับมาขนานดังเดิม

ซ่อมซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ ดูภาพเปรียบเทียบด้านล่างประกอบค่ะ

ซ่อมซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

แต่เวลาซ่อมจริงจะลำบากกว่าในตัวอย่างที่นำมาให้ชมนะคะ เพราะว่าจะต้องใช้คีมคีบผ่านวัสดุต่างๆ และเราจะตรวจสอบได้ยากกว่า ฉะนั้นออกแรงแต่เบาๆไว้ก่อนค่ะ

ซ่อมซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

ภาพเปรียบเทียบก่อนซ่อม - หลังซ่อม

ซ่อมซิปแตก
ภาพจากทางYoutube ช่อง Science Sir

เท่านี้ก็สามารถซ่อมกลับมาใช้งานได้ปกติค่ะ แต่ทางที่ดีเราควรดูแลรักษาซิปอย่างถูกวิธีนะคะ ก่อนจบเรื่องเล่านี้ โทริขอฝากวิธีใช้งานและดูแลรักษาซิปให้ทุกท่านค่ะ การใช้งานให้ซิปอยู่กับเราได้นานๆ -เวลารูดซิปหากไม่จำเป็น อย่ารูดเร็วๆ แรงๆ เพราะถ้าเกิดซิปติด หรือกินผ้า จะทำให้ซิปเสียหายได้ง่ายขึ้น -ทุกครั้งก่อนที่จะรูดซิปปิดเปิด ให้จับริมฟันสองข้างให้แนบกันก่อนค่อยรูด เพื่อให้หัวซิปสามารถประกบฟันได้ถูกต้อง -ก่อนที่จะนำซิปไปซัก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กางเกง กระเป๋า หากเป็นไปได้ ควรรูดซิปปิดก่อน ป้องกันการกระทบ รางซิปจะได้ไม่ช้ำ และไม่หักกลาง -ถนอมซิปโดยอาจจะใช้สบู่ หรือเทียนไข ถูฟันซิปทั้งสองด้านทำให้ซิปรูดได้ลื่นขึ้น

หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook #ซิปแตก #ซิป #ข้อมูลซิป #โทร#โทริไทยแลนด์ #torithailand #ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซิป

 
 
 
bottom of page