top of page
  • รูปภาพนักเขียนTORI

ดีไซน์หัวซิป คิดจากอะไร


ดีไซน์หัวซิป

ลองมองไปรอบๆตัวของเราดูสิคะ เราอาจจะพบว่า ข้าวของเครื่องใช้ที่เราใช้ในปัจจุบันมีซิปเป็นองค์ประกอบอยู่มากมาย แต่ว่าในแต่ละชนิดก็มีหัวซิป ป้ายซิปที่แตกต่างกัน หน้าตาก็ไม่เหมือนกัน แล้วทราบไหมคะว่า ทำไมหัวซิปเหล่านั้นถึงแตกต่างกัน เป็นเพราะเรื่องความสวยงาม ตามดีไซน์การออกแบบของผู้ผลิตหรือเปล่านะ หรือเป็นที่การใช้งานและการทำงานของซิป วันนี้โทริจะมาเล่าให้ทุกท่านฟังว่า หัวซิป-ป้ายซิป ที่เราใช้ๆกันอยู่ มีแนวคิดอย่างไร จากความสวยงาม หรือจากการใช้งานค่ะ

หัวซิป (slider) และ ป้ายซิป(puller) ล้วนเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ในซิป และสองอย่างนี้ก็อยู่ด้วยกันแบบแยกกันไม่ได้เลยเสียด้วย ในการใช้งานแต่ละแบบก็ทำให้เกิดลักษณะต่างกันไป โทรินำภาพมาให้ดูประกอบค่ะว่า ปัจจุบันเรามีแบบของหัวซิป ป้ายซิป ใช้กันแบบไหน ลักษณะใด และมีชื่อเรียกว่าอย่างไรบ้างค่ะ


รูปแบบป้ายซิป
รูปแบบต่างๆของหัวซิป-ป้ายซิป

"เรียกตามการใช้งาน"

1.แบบหัว Non-Lock : เป็นชื่อเรียกระบบหัวซิปแบบทั่วไป ที่สามารถรูดได้อิสระ ไม่มีกลไกพิเศษใช้ในอุปกรณ์กระเป๋าทั่วไป แต่ป้ายซิปสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการ


หัว Non-Lock
หัว Non-Lock

2.แบบหัว Auto-Lock : เป็นชื่อเรียกระบบหัวซิปที่มีระบบล็อคอัตโนมัติหรือ กันไหลนั่นเองค่ะ มักใช้มากในเสื้อแจ็กเก็ต และกระเป๋าที่ต้องทนต่อแรงตึงต่างๆ


หัว Auto-Lock
หัว Auto-Lock

3.แบบหัวPin-Lock : เป็นชื่อเรียกระบบหัวซิปที่มีระบบเขี้ยวสำหรับล็อค วิธีสังเกตหัวซิปประเภทนี้คือ ด้านใต้ป้ายซิปจะมีเขี้ยวติดอยู่ และต้องใช้การพับป้ายลงเท่านั้นถึงจะล็อคได้ ส่วนมากพบในระบบกางเกง


หัว Pin-Lock
หัว Pin-Lock

4.แบบหัว Doubble Pull : เป็นระบบเสริมที่ผลิตให้หัวซิปมีที่สำหรับป้ายซิปทั้งสองฝั่งเพื่อใช้ในการดึงรูปซิปได้สองด้าน พบมากในเต๊นท์

หัวซิปสองป้าย
หัวซิปสองป้าย

5.แบบหัวKey-lock : เป็นระบบที่ทำเสริมขึ้นมาให้ซิปมีระบบกุญแจล็อค แต่รูปแบบนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยม ภายหลังจะใช้เป็นลักษณะหัว Non-lock มาทำรูคล้องแม่กุญแจแทนเสียมากกว่า

หัวแบบ Key-Lock
หัวแบบ Key-Lock

"เรียกตามรูปลักษณ์ การออกแบบ และวัสดุ" 6. Cord Pull หรือ แบบเส้นยาง : ใช้ยางยืดเส้นแทนวัสดุทั่วไป ทั้งนี้ส่วนมากจะทำให้มีความยาวที่สามารถดึงได้ง่าย และด้วยความเป็นยางทำให้ทนต่อเหงื่อต่อน้ำได้มากกว่าป้ายที่เป็นโลหะทั่วไป จึงพบได้มากในอุปกรณ์เกี่ยวกับกีฬา

แบบ Cord Pull
แบบ Cord Pull

7.Chain Pull หรือ แบบห่วงโซ่ : หัวซิปแบบนี้ลักษณะออกมาจะคล้ายคลึงกับรูปแบบพวงกุญแจ ทำให้ลบภาพความเป็นหัวซิปได้ดี

แบบ Chain Pull
แบบ Chain Pull

8.Tape Pull หรือ แบบป้ายห้อย : แบบนี้จะนิยมใช้มากในอุปกรณ์ที่เป็นแบรนด์ต่างๆ และยังสามารถเล่นรูปแบบได้มากมาย

แบบ Tape Pull
แบบ Tape Pull

9.Leather Pull หรือ ป้ายหนัง : ป้ายทีใช้มากในวงการตัดเย็บกระเป๋า โดยเฉพาะเครื่องหนังเพื่อให้มีความเข้ากัน และเอกลักษณ์เฉพาะ


แบบ Leather Pull
แบบ Leather Pull

10.Silicon Pull หรือ ป้ายซิลิคอน : ส่วนมากเราจะเห็นป้ายนี้มากตาม กระเป๋าเป้เดินทาง อุปกรณ์กีฬา เนื่องจากคุณสมบัติของมันนั้นมีน้ำหนักที่เบาและกันน้ำ ส่วนมากจะนำมาหล่อและหุ้มลงบนแกนป้ายซิปหนึ่งอีกที


แบบ Silicon Pull
แบบ Silicon Pull

จริงๆนอกจากซิปทั้ง 10 แบบนี้ ยังมีซิปอีกหลายรูปแบบมากมาย ซึ่งก็มีการคิดค้นพัฒนา ออกแบบขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา จะเห็นได้ว่าแม้แต่ส่วนเล็กๆ ที่เป็นอุปกรณ์ เช่นซิป หากเราให้ความสำคัญมัน มันก็จะสามารถกลายมาเป็นสเน่ห์ และเอกลักษณ์ของสินค้าเราได้เลยนะคะ สำหรับท่านใดที่อยากศึกษาเรื่องหัวซิปมากขึ้น โทริขอแนะนำให้ลองแวะเข้าไปชมได้ที่ เรื่องเล่าจากโทริ การทำงานของซิป และ ส่วนประกอบของซิป ค่ะ


 

หากท่านใดมีความสนใจในซิปหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางโทริยินดีให้คำปรึกษาตลอด เพียงติดต่อมาหาเราได้ที่นี่ ติดต่อเรา และท่านสามารถติดตามการอัพเดทข่าวสาร และสิ่งที่น่าสนใจได้ใน facebook ของเรา ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ Torithailand facebook รูปภาพประกอบบางส่วนจาก pinterest


#ดีไซน์หัวซิป #หัวซิป #ป้ายซิป #ซิป #โทร#โทริไทยแลนด์ #torithailand


ดู 425 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
bottom of page